เหล่าซือและลูกจะพาเพื่อนผู้อ่านเจาะเวลาหาอดีตที่
นครหังโจว เมืองประวัติศาสตร์
เคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ซ้งใต้ （南宋）เมื่อ 890 ปีก่อน
ระหว่าง ค.ศ. 1127 - 1279 (พ.ศ. 1670 - 1822)
ถ้าเทียบกับประวัติศาสตร์ไทย ก็คือ สถาปนาขึ้นก่อนการสถาปนาอาณาจักรสุโขทัย 110 ปี
โดยอาณาจักรสุโขทัยเริ่มเมื่อ พ.ศ.1780
ยุคซ้งสิ้นสุดลงก่อนการสถาปนาอาณาจักรอยุธยา 71 ปี
โดยอาณาจักรอยุธยาเริ่ม พ.ศ.1893
ทริปนี้เราได้ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าในการชมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของนครหังโจว ที่ใช้การจำลองบรรยากาศยุคซ้งเป็นจุดขาย เรียกว่า “宋城” (ซ้งเฉิง)
ที่นี่มีสโลแกน - จุดขาย ว่า “给我一天，还你千年” (ให้เราหนึ่งวัน คืนคุณพันปี)
หมายความว่า ขอเวลาท่านมาเที่ยวที่นี่แค่ 1 วัน พาคุณย้อนคืนอดีตพันปี
บริเวณ “宋城” (ซ้งเฉิง) ไม่กว้างนัก ที่นี่คล้ายสถานที่ท่องเที่ยว สวนสนุกบ้านเราที่ต้องเสียค่าบัตรประตู ไม่ใช่ย่านถนนคนเดินสไตล์จีนโบราณที่เดินชมสินค้าฟรี
ค่าผ่านประตู 300 หยวนต่อคน (ประมาณ 1600 บาท) รวมบัตรชมการแสดงโชว์บนเวที
สิบกว่าปีก่อนเคยมากับกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งต้องเสียเวลากับการไปอยู่ในร้านขายของที่ทัวร์บังคับลง พอทัวร์พามาที่นี่ ก็จัดเข้าไปนั่งชมโชว์ จบเสร็จก็พาขึ้นรถกลับเข้าเมืองเลย ไม่มีเวลาจะเดินชมหรือถ่ายรูปอะไรทั้งสิ้น
คราวนี่้เลยตัดสินใจมาเองสองคนแม่ลูก ซึ่งก็เดินทางไม่สะดวกนัก แต่ได้บรรยากาศวิถีชาวบ้านท้องถิ่น
เพราะที่ตั้งของ "ซ้งเฉิง" อยู่นอกเมืองหังโจว เรียกแท็กซี่ออกไปค่อนข้างไกล
การเดินทาง
ใช้แท็กซี่หรือรถประจำทาง รถไฟใต้ดินยังไปไม่ถึง เพราะอยู่นอกเมือง
ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมง
แท็กซี่พาเราผ่านหมู่บ้านปลูกชาเขียวหลุ่งจิ่ง ซึ่งมีรถทัวร์จอดพาลูกทัวร์ชิมชาซื้อใบชา
แต่ที่ลำบากก็คือ ขากลับมืดแล้ว ประมาณทุ่มกว่า ถ้าไม่ได้มากับทัวร์กรุ๊ป ต้องเรียกแท็กซี่จากหน้าเมืองจำลองซ้งนี้กลับเข้าเมือง ไม่รู้เค้าจะคิดเท่าไหร่ และนั่งกันสองแม่ลูกจะปลอดภัยมั้ย (สำหรับคนจีนท้องถิ่นเขาใช้แอพเรียกแท็กซี่กัน)
ขากลับจึงตัดสินใจนั่งรถประจำทางท้องถิ่นกลับเมือง แต่ก็นั่งผิดทิศ ต้องลง ย้อนกลับมาทางเดิม ตั้งต้นกันใหม่ มองดูป้ายรถประจำทาง ถึงจะรู้ว่ารถประจำทางที่นี่มีบางสายรถคันสุดท้ายหมดตั้งแต่ 2 ทุ่ม ตอนนั้นก็เกิน 2 ทุ่มแล้ว อากาศหนาว ผู้คนก็ไม่ค่อยมี เพราะอยู่นอกเมืองที่เป็นป่านิดๆ
เอาเป็นว่า ในที่สุดก็ได้ขึ้นรถประจำทางที่พาเรากลับเข้าเมืองได้ น่าจะเป็นสาย 318
ถามคนขับว่า 这路车到武林门吗？ "รถสายนี้ไปหวู่หลินเหมินมั้ย" คนขับตอบว่า ไปสุดสายที่หวู่หลินเหมิน (หวู่หลินเหมินคือใจกลางเมือง เหมือนแถวสยามบ้านเรา ถ้ากลับไปถึงหวู่หลินเหมินได้ ก็หาทางกลับที่พักได้)
แสดงว่าเรานั่งตั้งแต่ใกล้ต้นสายไปถึงสุดสายเลย
ค่ารถคนละ 2 เหรียญกว่า (ที่นี่ค่ารถเมล์ไม่ได้เท่ากันทุกสาย)
ในรถคันนั้น ตอนเราขึ้นมีผู้โดยสารแค่สามคน คือเราสองคนกับคนจีนอีกหนึ่งคน รวมคนขับอีก 1 คน ที่นี่เขาไม่ต้องมีกระเป๋าเก็บตังค์บนรถ ใช้บัตรสแกนเอา (สังคมเมืองที่นี่ เทคโนโลยีได้พัฒนาถึงขั้นสังคมไร้เงินสดแล้ว ไว้ค่อยเล่าตอนต่อไป) มีแต่เราสองคนที่ใช้เหรียญหยอดลงในกล่อง
แต่เราก็รู้สึกปลอดภัยกว่านั่งแท็กซี่ คนขับแท็กซี่ที่นี่บางคนไม่ใช่คนท้องถิ่น ไม่เหมือนแท็กซี่ที่เมืองปักกิ่ง ที่ปักกิ่งเขาจะออกใบอนุญาตขับแท็กซี่ให้เฉพาะคนปักกิ่งเท่านั้น
.....
การโชว์ศิลปะวัฒนธรรมจีนโบราณ
ภายใน "ซ้งเฉิง" ร้านค้าต่างๆ ก็จะจำลองบรรยากาศวิถีชีวิตโบราณสมัยยุคซ้ง ซึ่งเป็นยุคที่เจริญรุ่งเรืองของจีนมาก
ไกด์ที่นี่ คนขายของ ร้านอาหาร ร้านขายมีด ฯลฯ แต่งกายและแต่งร้านด้วยสไตล์ "ยุคซ้ง" ทั้งหมด
มีป้ายติดประกาศราชโองการแบบสมัยซ้ง มีเกี้ยวหามเจ้าสาวตามประเพณีโบราณ
มีศาลเทพเจ้าแห่งโชคภาพ 财神爷 ที่เราเรียกเป็นภาษาแต้จิ๋วว่า ฉ่ายเส่งเอี้ย (ภาษาแคะฮากกา เรียกว่า ฉ่อยสึ่น)
มีกามเทพจีน ที่เรียกว่า 月老
นอกจากการแสดงในโรงละครขนาดใหญ่แล้ว ยังมีการแสดงย่อยๆ นอกโรงละคร เรื่อง เปาบุ้นจิ้น ตอนประหารราชบุตรเขย
เอาล่ะ เสียตังค์เข้ามาแล้วก็อย่าให้เสียเปล่า เหล่าซือกับลูกพาเพื่อนๆ ผู้อ่านลอดไทม์แมชชีนเจาะเวลาย้อนยุคกลับไปหาอดีตพันปีกันดีกว่า
มีป้ายติดประกาศราชโองการยุคราชวงศ์ซ้ง
มีเกี้ยวหามเจ้าสาวตามประเพณีโบราณ ซึ่งให้บริการนักท่องเที่ยวที่อยากสนุก นั่ง 1 รอบ ค่าบริการ 30 หยวน ประมาณ 160 บาท
มีการแสดงย่อยๆ นอกโรงละคร เรื่อง เปาบุ้นจิ้น ตอนประหารราชบุตรเขย
นักแสดงแสดงได้เยี่ยมมาก
เปาบุ้นจิ้น ศาลไคฟง อยู่ในยุคราชวงศ์ซ้งเหนือ ตอนนั้นมีเมืองหลวงอยู่ที่ เมืองไคฟง
มีศาลเทพเจ้าแห่งโชคภาพ 财神爷 ที่เราเรียกเป็นภาษาแต้จิ๋วว่า ฉ่ายเส่งเอี้ย (ภาษาแคะฮากกา เรียกว่า ฉ่อยสึ่น)
มีศาลเจ้ากามเทพจีน ที่เรียกว่า 月老
ร้านเคเอฟซี และ ห้องน้ำ ด้านหน้าทางเข้า ซ้งเฉิง
ร้านเคเอฟซีที่นี่ เขาก็ไม่ใช้เงินสดกันแล้วนะ
ส่วนการโชว์ในโรงละครใหญ่นั้น ก็จะลงทุนแต่งกายและจัดฉากอลังการ
มีเรื่องของแม่ทัพงักฮุย ซึ่งเป็นตงฉินในสมัยราชวงศ์ซ้ง แสดงถึงความกล้าหาญของคนรุ่นก่อนที่พลีชีพเพื่อชาติ การแสดงชุดนี้น่าดูมาก มีการแสดงฉากไฟไหม้เมืองได้อย่างสมจริง
รูปปั้นแม่ทัพงักฮุย
มีการจำลองการแสดงในวังยุคซ้ง สะท้อนถึงความรุ่งเรืองด้านศิลปะการร้องการรำในสมัยนั้น
ขณะเดียวกันก็แสดงถึงการเสพสุขของฮ่องเต้ปลายราชวงศ์ซ้ง เช่น ฮ่องเต้จัดพิธีอภิเษกสมรส มีพระราชโองการสั่งให้ประชาชนร้องรำทำเพลงกินดื่มเฉลิมฉลองเป็นเวลาติดกัน 3 วัน
จนสุดท้ายก็รักษา "ราชวงศ์ซ้ง" ไว้ไม่ได้
เสียบ้านเมืองให้กับกองทัพจากมองโกลในสมัยเจงกิสข่าน เปลี่ยนเป็นราชวงศ์หยวน (คือปกครองโดยชาวมองโกล) และย้ายเมืองหลวงไปอยู่เป่ยจิ๊ง (ปักกิ่ง) ในปีค.ศ. 1279 (พ.ศ. 1822)
และการแสดงอื่นๆ อีกหลายชุด ใช้เวลาโชว์ประมาณ 1 ชั่วโมง มีแสดงวันละหลายรอบ รอบที่เราดูเป็นรอบ 18.00
.....
TIPS:
ของฝากสำหรับนักเรียนที่สอบ PAT จีน
เมืองหังโจว ชาเขียวหลุ่งจิ่ง จะออกสอบแทบทุกปี
บางปีถามว่า เมืองหังโจว เคยเป็นเมืองหลวงในสมัยใด
บางปีถามว่า ชาเขียวหลุ่งจิ่งที่มีชื่อเสียงของจีน มีแหล่งผลิดอยู่ที่ใด ฯลฯ
สุวรรณา สนเที่ยง
photos by: Suwanna & Mhew
วีดีโอการแสดงชุด งักฮุย ที่เหล่าซือถ่ายจากที่นั่งชม
ดูได้ที่นี่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น