ไปยืนอยู่ ณ จุดสู้รบในอดีตเมื่อ 200 กว่าปีก่อนที่ชี้ขาดประวัติศาสตร์ไทย
ดิฉันใช้หัวเรื่องแบบนี้ ไม่ทราบว่าจะได้หรือเปล่า แต่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
(ท่านผู้รู้ประวัติศาสตร์กรุณาช่วยเพิ่มเติมด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ )
...............................................
3 ชั่วโมงครึ่งในบางคล้า
ต่อจากเรื่องที่แล้ว
ท่านไกด์กิติมศักดิ์ก็พาเรามาที่ฝั่งตรงข้ามคลองท่าลาดซึ่งห่างจากวัดปากน้ำแค่นิดเีดียว
ไปชม สถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน
ท่านเล่าประวัติความเป็นมาของที่นี่ให้ฟัง
ทำให้รู้สึกเหมือนไปทัศนศึกษาและฟังคำบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญเลยทีเดียว
เกร็ดความรู้ประวัติศาตร์ เมื่อได้คนเล่าดีๆ ก็กลายเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก
ทำให้เรารู้ที่มาที่ไป รู้รากเหง้า
จุดที่เรากำลังยืนอยู่นี้ ณ สถูปเจดีย์พระเจ้าตาก
จุดที่เคยมีเลือดหลั่งโลมดินและแทรกซึมอยู่ในเนื้อดิน กลายเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ให้คนรุ่นต่อมา
ที่นี่เคยมีการสูญเสียชีวิตจำนวนมากทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาอันควร
เป็นจุดที่มีความสำคัญชี้ขาดประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยเสียกรุงครั้งที่สอง ประมาณปี พ.ศ. 2310
ที่ว่า เป็นจุดชี้ขาดประวัติศาสตร์
ก็เพราะเป็นจุดที่กองทัพพม่าไล่ติดตามกองทัพพระเจ้าตากที่พาทหารตีฝ่าวงล้อมหนีออกจากกรุงศรีอยุธยา
พม่ายกกำลังมาทั้งทางน้ำและทางบก ตามไล่มาถึงจุดนี้ รบกันดุเดือด
ทหารพม่าเสียหายอย่างหนัก ทหารไทยก็สละชีพไปมาก ฝ่ายพระเจ้าตากชนะการรบ
หลังจากการรบครั้งนั้นแล้ว พม่าก็ไม่ได้ส่งทหารตามไล่กองทัพพระเจ้าตากอีก
พระเจ้าตากจึงสามารถนำทัพเดินทางต่อไปยังเมืองจันท์ และรวบรวมพลกลับมากู้ชาติไทยได้ในเวลาต่อมา
แต่ถ้าการรบที่นี่เมื่อ 200 กว่าปีก่อน ฝ่ายทัพพระเจ้าตากเป็นฝ่ายแพ้และเสียสละทั้งหมด
ประวัติศาสตร์ไทยก็ไม่ใช่อย่างทุกวันนี้แน่นอน
(เรื่องนี้ เป็นความรู้ใหม่ของดิฉันที่ได้จากการไปบางคล้าครั้งนี้ค่ะ)
ที่บางคล้า จึงมีศาลพระเจ้าตากสินอยู่หลายแห่ง ดังคำขวัญของเมืองนี้ ที่ว่า
บางปะกงคู่ชีวี พระสถูปเจดีย์คู่ถิ่น ศาลพระเจ้าตากสินคู่บ้าน
อาหารคาวหวานคู่เมือง ลือเลื่องค้างคาววัดโพธิ์
เจดีย์อนุสรณ์สถานเดิม ที่พระเจ้าตากทรงโปรดให้สร้างขึ้นหลังขึ้นครองราชย์
เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับการสู้รบครั้งนั้นและนักรบที่เสียสละ
ได้ถูกกระแสน้ำกัดเซาะพังทลายลงน้ำไปเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2491
มีการสร้างขึ้นใหม่ เมื่อปี 2543 ณ จุดเดิม
จุดที่ตั้ง อยู่ที่ บริเวณปากน้ำโจ้โล้ปัจจุบัน คือ ตำบลปากน้ำ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา
อนุสรณ์ในการสู้รบครั้งนั้น มีชื่อเต็มว่า อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
อนุสรณ์ในการสู้รบครั้งนั้น มีชื่อเต็มว่า อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ตอนแรก ดิฉันก็ถามไปตามที่ไม่รู้ ว่า " ทำไมบางคล้านี่ถึงมีศาลพระเจ้าตากหลายที่คะ ? "
ท่านก็เลยพามาอ่านตรงป้ายข้างบนนี้
พาเดินเข้าไปชมใกล้ๆ
Chachoengsao 府 Bangkla 县的泰国吞武里皇朝郑王纪念塔。
设塔的地点曾是郑王军击败缅甸军的历史遗址。
ฉากหลังที่เห็นคืออุโบสถสีทอง วัดปากน้ำโจ้โล้ (จากเอนทรี่ตอนที่แล้วค่ะ)
วันที่เราไป อากาศดีมาก แดดจ้า ถ่ายรูปออกมาท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินเข้ม
ชอบใจปืนใหญ่กระบอกนี้ ทำจากท่อพีวีซีค่ะ
จุดนี้ เป็นจุดแยกของแม่น้ำบางปะกง กับ คลองท่าลาด
บรรยากาศร่มรื่น สงบ แต่เมื่อนึกย้อนภาพสู้รบในอดีต ........เมื่อสองร้อยกว่าปีก่อน
หนีการไล่ล่าของทัพพม่า ไม่มีบ้า่น ไม่มีไฟ ขาดแคลนอาหาร ไม่มียารักษาโรค
เหล่านักรบพลีชีพ.... ณ จุดนี้
ให้เราต่อมาเรามีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ได้อยู่อาศัยอย่างมีความสุข มีละครดู ... ไม่เฉพาะที่บางคล้านี่
ทำให้นึกถึงบุญคุณของพวกท่านเหล่านั้นขึ้นมาอย่างจับใจ
กลับมาแล้วรู้สึกว่าอยากเขียนเรื่องนี้มากๆ
ปัจจุบันบางคล้าเป็นดินแดนอุดมสมบูรณ์ เศรษฐกิจดี
ชาวบางคล้าจึงได้เคารพและสำนึกบุญคุณของกองทัพพระเจ้าตากสินมหาราชและผู้พลีชีพกู้บ้านกู้เมืองทุกท่าน
จึงได้สร้างอนุสาวรีย์พระเจ้าตากไว้ตรงทางเข้าเมืองบางคล้า
และ สร้างศาลพระเจ้าตากไว้หลายแห่งไว้คู่เมือง
นี่คือภาพฝั่งแม่้น้ำบางปะกงที่ไหลออกสู่ทะเล
และนี่คือฝั่งคลองท่าลาด
เราไปวันศุกร์ นักท่องเที่ยวจึงมีไม่มาก
ขอบพระคุณท่านนายอำเภอพรเลิศ โชคชัย
อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา
อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา
ขอบคุณแผนที่เดินทาง จากเว็บไซต์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
ข้อมูลเพิ่มเติม จากเว็บไซต์เทศบาลบางคล้า
คณะกรรมการฯ ชุดค้นหาประวัติบางคล้าในเชิงประวัติศาสตร์ พบว่า พระเจ้าตากสินมหาราช มีความเกี่ยวเนื่องกับภูมิประเทศ ที่ตั้งอำเภอบางคล้าอย่างยิ่ง
จะเห็นได้ว่าบริเวณปากน้ำโจ้โล้ที่กองทัพข้าศึกแตกพ่าย และบริเวณรวบรวมพลเดินทัพมุ่งผ่านท่าทองหลาง อยู่ในเขตเทศบาลตำบลบางคล้าพื้นที่แห่งนี้จึงเป็นเสี้ยวหนึ่งของการกู้ชาติบ้านเมือง ชุมชนดั้งเดิมอันเป็นบรรพบุรุษที่นี้ ต้องมีส่วนเข้าร่วมขบวนกู้ชาติกู้แผ่นดินอย่างแน่นอน คณะกรรมการฯ ชุดสร้างศาลอนุสาวรีย์ จึงให้รวมพลังทุกๆ ฝ่ายร่วมกันจัดสร้างศาลอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราชขึ้น ณ บริเวณทางเข้าเมืองบางคล้า เป็นพระรูปทรงม้าศึกในอิริยาบถกำลังออกเดินทางผ่านท่าทองหลวง ตามประวัติศาสตร์ที่กล่าวไว้
สร้างเสร็จเมื่อธันวาคม 2531
ส่วนภาพล่าง อาหาร อร่อย ของบางคล้า กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่มากค่ะ (เจ้าถิ่นพาเราไปทาน ตอนหน้านะคะ)
ขอขอบคุณพื้นที่ของกูเกิล
ที่ให้โอกาสในการแบ่งปันประสบการณ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น