วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เจาะลึกปักกิ่ง ตอน 20 กำแพงเมืองจีน ยิ่งสูงยิ่งชันยิ่งท้าทาย (มีภาพ VDO 360 องศา)

 深入北京、走进北京 เจาะลึกปักกิ่ง





เรื่องนี้โพสต์ครั้งแรกที่ โอเคเนชั่นบล็อก
วันอังคาร ที่ 11 กันยายน 2555
 http://oknation.nationtv.tv/blog/chineseclub/2012/09/11/entry-2

เอนทรี่นี้เป็นเอนทรี่แรกในการโพสต์ภาพและ VDO (แบบหัดถ่าย) 
ถ่ายภาพจากกล้องถ่ายรูปอัตโนมัติยี่ห้อ แคนนอน ธรรมดา ไม่ได้ต้องการโชว์ฝีมือถ่ายภาพหรือถ่าย VDO นะคะ เพราะมันยิ่งกว่า "เด็กๆ"  ถ่ายแบบมือไม่นิ่ง  บางช่วงก็เดินไปถ่ายไป  แต่อยากเก็บภาพและบรรยากาศจากการไปกำแพงเมืองจีนครั้งล่าสุดมาไว้ในบล็อกนี้ค่ะ
เคยเขียนและโพสต์รูปกำแพงเมืองจีนแล้วครั้งนึง ในอารมณ์ที่รู้สึกคนเยอะ แน่นจนบางช่วงเดินขึ้นไปไม่ได้  และเพื่อนๆ ที่ขึ้นไปได้ก็ต้องเดินลงทางไหล่เขา (ดูเรื่องเดิมได้ที่  http://www.oknation.net/blog/chineseclub/2012/04/04/entry-1 )

วันนี้จะเขียนถึงกำแพงเมืองจีนอีกและโพสต์รูปในอารมณ์ที่รู้สึกอยากทดสอบร่างกาย ทดสอบจิตใจ ด้วยการพยายามขึ้นไปให้สูงที่สุด ( ในเดือนพฤษภาคม อากาศสบายๆ )
เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2012 

 ราคาบัตรเข้าชม ช่วงไฮซีซั่น 45 หยวน / ท่าน


เริ่มต้นจากจุดทางขึ้นกำแพงเมืองจีน ด่านปาต๋าหลิ่ง (北京八达岭长城ฝั่งที่ไม่มีกระเช้าขึ้นกำแพง  พอผ่านด่านตรวจบัตรเข้าชม (บัตรเข้าชมผู้ใหญ่คนละ 45 หยวน) ขึ้นไปจะมีทางแยกให้เลือกขึ้นทางซ้ายหรือทางขวา  คณะเราเลือกที่จะเดินขึ้นทางด้านซ้าย 
ภาพที่โพสต์ไว้คราวก่อน เป็นภาพที่เราเดินขึ้นทางด้านขวาเมื่อเดือนเมษายน 2011  ซึ่งวันนั้นคนเยอะมากเนื่องจากตรงกับช่วงวันหยุดยาวของจีน  

ในภาพ ทางเดินช่วงล่างๆ ของกำแพงเมืองจีนยังไม่ค่อยชัน เดินสบายๆ  ที่เห็นอยู่ข้างบนนั้นคือป้อมแรกจากทางขึ้น  คนส่วนมากจะเดินมาประมาณ 1 - 2 ป้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแล้วก็กลับลงไปข้างล่าง   

 

ถึงป้อมแรก
  







เลยป้อมแรกขึ้นไปอีกหน่อย ทางเริ่มชันขึ้น




                            
ทางชันขึ้นเรื่อยๆ  เราจะขึ้นต่อมั๊ย  นี่ผ่านมาหลายป้อมแล้ว ยังไม่เห็นยอดเลยนะ



000
                          



ลุย  ท้าทายดี  ดูว่าจะไปถึงป้อมบนสุดที่อยู่บนยอดเขาได้หรือเปล่า







     ส่วนนี้ชันขึ้นเรื่อยๆ


ดูคนสูงอายุคนนั่นสิ  ใช้ไม้เท้ายัน 2 ข้างเลย






ชาวจีนที่ใส่เสื้อสีฟ้าท่านนี้ บอกว่าปีนี้อายุเกือบ 70 แล้ว  แต่ตั้งใจว่าจะขึ้นให้ถึงป้อมบนสุดของกำแพงเมืองจีน ก็เลยมาพร้อมอุปกรณ์  เหล่าซือก็เลยบอกว่า 真佩服您!นับถือนับถือ !เขาก็ยิ้ม



ขี้นมาถึงจุดหนึ่งแล้วก็ย้อนกลับไปมองทางที่ขึ้นมาเมื่อกี้  เราขึ้นมาสูงพอสมควรแล้ว  ด้านล่างขวามือที่เห็นเป็นสีขาวๆ นั้นเป็นสิ่งปลูกสร้างที่อยู่แถวทางขึ้นจุดเริ่มต้น



หยุดเก็บภาพตรงนี้ก่อน  มาถึงที่สูงๆ  มองได้กว้างและไกล 
เดินถึงอีกจุดหนึ่ง มีที่พักขาบ้าง ตอนนี้เริ่มหายใจไม่ค่อยจะทัน  เพราะปกติไม่ออกกำลังกายนั่นเอง


 ความจริงอีกด้านหนึ่งของด่านปาต๋าหลิ่งนี้  มีกระเช้าบริการขึ้นกำแพงเมืองจีนด้วย  ไม่ต้องเดินให้เหนื่อยก็ชมวิวได้  แต่พวกเราไม่เลือก  เพราะการเดินขึ้นอย่างนี้จะได้อรรถรสกว่า  
                             
มองไปทางที่จะเดินต่อไปข้างบน  ลองขึ้นไปอีกนิดนึง


 พักหายใจและชมวิวกำแพงเมืองจีนก่อน ที่เห็นอยู่ไกลๆ โน่น เป็นป้อมกำแพงเมืองจีนที่อยู่อีกฝั่งของเทือกเขา  เด็กถามว่าทำไมคนโบราณต้องสร้างป้อมไว้บนยอดเขาสูงๆ ที่มันสร้างยากด้วยล่ะ  ก็เพื่อใช้เป็นที่จุดคบไฟเป็นสัญญาณว่าพบข้าศึกเคลื่อนตัวเข้ามา ถ้ายิ่งสูงเท่าไหร่ แสงไฟก็จะยิ่งมองเห็นได้ไกลมากขึ้น (เพราะตอนนั้นยังไม่มีมือถือน่ะ)



สรุปว่าเหล่าซือรออยู่แค่ตรงนี้นะ  อีก คนแรงยังดีอยู่ เดินขึ้นต่อไป  คนในคณะเราที่ขึ้นมาถึงจุดนี้มี คน แต่ขึ้นไปถึงป้อมสูงสุดสรุปว่ามีแค่ คนจาก คน

         เหล่าซือก็นั่งรอและมองดูผู้คนที่ขึ้น-ลงเก็บบรรยากาศตรงบันไดนั่นแหละ  รออยู่พักใหญ่ๆ ถึงเห็นพวกเขาเดินกลับลงมา  ถามว่าไปถึงไหน เขาบอกว่าไปถึงป้อมที่อยู่ยอดเขาโน่นเลย



มองย้อนลงไปข้างล่าง  ดูนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกที่พยายามจะขึ้นมาให้สูงที่สุด  

ฝรั่งคนนี้ดูจะเดินขึ้นสบายๆ



คนเก่งเดินลงมาแล้ว  ที่ถือในมือคือแผ่นหินแกะสละเป็นรูปกำแพงเมืองจีนที่น้องขึ้นไปได้มาจากคนแกะสลักที่ตั้งแผงอยู่บนป้อมสูงสุด  ห่ออย่างดีเอากลับเมืองไทยเป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งได้ขึ้นไปเหยียบบนป้อมสูงสุดของกำแพงเมืองจีนปาต๋าหลิ่งมาแล้ว




อีก คนที่ขึ้นไปจนถึงยอดเขา ก็กลับลงมาพร้อมกับรอยยิ้ม คนนึงก็มีแผ่นหินแกะสลักมาด้วยเหมือนกัน  ถามว่าข้างบนมีร้านขายของเหรอ  น้องบอกว่าเปล่า  แต่เหมือนเป็นศิลปินที่ (แอบเจ้าหน้าที่) มาปูแผงรับแกะสลักแผ่นหินเป็นรูปกำแพงเมืองจีนให้นักท่องเที่ยวอยู่บนนั้น  บางแผ่นก็แกะให้ใหม่ตอนนั้นเลย  อย่างของหนูก็ไปรอเค้าแกะให้  โอโห  คนแกะสลักคนนี้เข้าใจทำ  นอกจากผลงานที่ทำออกมาสวยและแปลกกว่าอย่างอื่นแล้ว  ยังทำให้ผู้ซื้อรู้สึกมีความภาคภูมิใจผสมอยู่ในนั้นด้วย ( เพราะต้องปีนป่านขึ้นไปถึงบนสุดถึงซื้อได้นะนี่  อย่างเหล่าซือมีตังค์ 100 หยวนก็ซื้อไม่ได้นะ เพราะนั่งรอตรงนี้นี่นา )




ทีนี้มาดูขาลงบ้าง ถ้าล้มลงไปหัวแตกแน่เลย

ราวให้เกาะลงก็ยังรู้สึกลำบาก  ตอนสร้างจะลำบากขนาดไหนนี่อ่ะ

นักท่องเที่ยวฮ่องกงกลุ่มนี้เอาก้นไถลงเลยดีกว่า ขาสั่นอ่ะ  





 



กลับลงมาถึงป้อมแรกข้างล่าง เจอนักศึกษากลุ่มหนึ่งกำลังถ่ายรูปกับชุดครุยรับปริญญาอยู่  คนที่มาเรียนปักกิ่ง ก็ต้องมีรูปถ่ายกับกำแพงเมืองจีนนำกลับไปเป็นที่ระลึก


 หลายคนก็เลยมาจารึกชื่อไว้บนกำแพงเมืองจีนสักหน่อย  ว่าครั้งหนึ่งได้มาที่นี่  ชื่อนี้ก็จะได้ติดอยู่บนกำแพงนานจนกว่ากำแพงจะพัง ไม่ใช่มีแต่ภาษาจีนนะ  มีหลายภาษามาก  ทั้งไทย แขก ฝรั่ง เกาหลี ฯลฯ  สงสัยเตรียมการมาอย่างดี เพราะหินที่แข็งแบบนี้อย่างเราถึงคิดจะสลักชื่อกับเขาบ้างก็ทำไม่ได้ เพราะขาดอุปกรณ์ 



ข้างๆ มีแผ่นหินแกะสลักบอกเล่าประวัติความเป็นมาของการสร้างกำแพงยักษ์   


แผ่นหินที่บ่งบอกประวัติการสร้างกำแพงเมืองจีน เรียงรายระหว่างทางขึ้นกำแพง
    
ร้านเคเอฟซี (北京长城肯德基快餐店) สาขากำแพงเมืองจีน ด่านปาต๋าหลิ่ง (八达岭)เป็นที่พึ่งพาได้ในเรื่องอาหารกลางวันที่นี่  ด้วยรสชาติที่คุ้นลิ้น เมนูที่คุ้นเคย  และราคาไม่โขกเหมือนร้านอาหารแถวนั้น (แต่ก็แพงกว่าเคเอฟซีทั่วไป) ร้านอาหารแถวนั้นไม่อยากเข้า เพราะเคยโดนโขก และรอนานมาแล้ว ทริปนี้เลยพามากินเคเอฟซี  ทานเสร็จจะได้ไปเที่ยวที่อื่นกันต่อ 



 

ตอนนี้ลงมาข้างล่างของกำแพงเมืองจีนแล้ว 
       ข้อความนี้อยู่เชิงทางขึ้น ด่านปาต๋าหลิ่ง  ตรงข้ามร้านเคเอฟซี สาขากำแพงเมืองจีน เขียนไว้ว่า 不到长城非好汉 ก็เคยสงสัยนะว่าหมายความว่าอะไร  ถ้าแปลตรงตัว ก็แปลว่า " ถ้าไม่ได้ไปถึงกำแพงเมืองจีนก็ไม่ถือว่าเป็นวีรบุรุษ "   คำว่า 好汉 สำนวจจีนหมายถึงลูกผู้ชาย หรือวีรบุรุษ ผู้กล้า  ( แล้วคนไม่มากำแพงเมืองจีนจะเป็นลูกผู้ชายหรือเป็นวีรบุรุษไม่ได้เหรอ งง ) 




ตอนหลังก็เลยไปลองหาข้อมูลจากเว็บภาษาจีนดู  ก็ได้ความทำนองว่า  อดีตผู้นำจีน ต้องการจะปลุกเร้าให้คนจีนต่อสู้กับความยากลำบากในช่วงสร้างชาติหลังจากขับไล่ต่างชาติออกไปจากจีน ก็เลยเอากำแพงเมืองจีนมาเป็นสัญญลักษณ์ของความทรหดของชาวจีนหรือชาวฮั่น  เพราะคำว่า 好汉 (ห่าวฮั่น) ยังหมายถึงชาวฮั่นที่ดีได้ด้วย  ( อ้อ เป็นอย่างนี้หรือเปล่า ยังไม่แน่ใจ วานผู้รู้ช่วยมาให้ความกระจ่างหน่อย )      


ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปทุกคนนะคะ ที่ทำให้การเดินทางครั้งนี้มีความสุขและมีความหมายน่าจดจำ 




                            
          บนกำแพงมีถังขยะ ถังขยะก็ถ่าย 
         เหล่าซือเป็นโรคชอบถ่ายรูปถังขยะ ไปพระราชวังกู้กง ไปวัดลามะ พระราชวังฤดูร้อน ไปมหาวิทยาลัยฯ ถ่ายรูปถังขยะทุกที่  ทำยังกะเป็นของสะสม            
                                
  
                                        
         เหล่าซือเป็นโรคอีกอย่าง คือ ชอบถ่ายรูปห้องน้ำมาให้ดูค่ะ  สงสัยจะเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องฝังใจหลายๆ คน  เมื่อก่อนจะไม่กล้าเข้าห้องน้ำแถวกำแพงเมืองจีนเลย  เดี่ยวนี้ห้องน้ำทำอย่างดี และมีจำนวนห้องมากพอที่จะรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  อย่างตึกที่เห็นในรูปนี้ ในนั้นเป็นห้องน้ำทั้งหลังเลย  ห้องน้ำหญิงมีหลายสิบห้อง แทบจะไม่ต้องเข้าคิว      




        ในห้องน้ำของเมืองใหญ่ๆ ในจีน ตอนนี้ใช้ระบบราดน้ำอัตโนมัติ  ถ้าเห็นข้อความแบบนี้ 起身即出水 (พอลุกขึ้นน้ำก็จะทำความสะอาดเอง) ในห้องน้ำ  ก็หมายความว่าเป็นระบบอัตโนมัติ  ดีค่ะ จะได้ไม่ต้องเอานิ้วมือไปสัมผัส




-------
ซีรีส์ชุด เจาะลึกปักกิ่ง
ขอบคุณทุกคลิกทุกโหวตค่ะ
สุวรรณา สนเที่ยง





เจาะลึกปักกิ่ง กำแพงเมืองจีน ยิ่งสูงยิ่งชันยิ่งท้าทาย (มีภาพ 360 องศาจาก VDO) 

วีดีโอนี่หล่าซือถ่ายเอง ถ่ายได้ไม่ดี แต่อยากให้เพื่อนๆ ดูกำแพงเมืองจีนในมุม 360 องศาค่ะ ( เมื่อเช้าให้ลูกสอนวิธีใส่เครดิตในวีดีโอ)


รวมเรื่องเกี่ยวกับปักกิ่ิง 深入北京
เขียนโดย สุวรรณา สนเที่ยง 张碧云
Flag Counter








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น