วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556

北京 BEIJING (7) สถานที่ไม่ควรพลาด 故宫 GUGONG, พระราชวังกู้กง มรดกโลก เกร็ดประวัติศาสตร์จีน


深入北京、走进北京。故宫。เจาะลึกปักกิ่ง

ตอนที่ 7 พระราชวังกู้กง
เกร็ดประวัติศาสตร์จีน การเปลี่ยนมืออำนาจในพระราชวังกู้กุง
北京故宫 
GUGONG, BEIJING พระราชวังต้องห้าม กรุงปักกิ่ง
หนึ่งในมรดกโลกที่อยู่ในปักกิ่ง

ใช่ว่าคนจีนทุกคนจะมีโอกาสมากรุงปักกิ่ง 
และได้มาชมพระราชวังในอดีตแห่งนี้


( ในภาพ ) เป็นฮ่องเต้จำลองนะคะ พรีเซนเตอร์คือน้องต้า 
นักเรียนของเหล่าซือเองค่ะ

ถ่ายที่หอฟ้าเทียนฐาน ที่เห็นนี้เป็นชุดฮ่องเต้แบบแมนจู

 เห็นแล้วนึกถึงหนังจีนไหมคะ

 
ปักกิ่ง เป็นเมืองหลวงของ 3 ราชวงศ์และ 3 ชนชาติในอดีต คือ มองโกล  ฮั่น และ แมนจู 
蒙古   汉族   满族

พระราชวังกู้กุง  เคยเป็นที่ประทับของอดีตฮ่องเต้ 
และศูนย์การปกครองของจีน 2 ราชวงศ์
คือ ราชวงศ์หมิงของชาวฮั่น และราชวงศ์ชิงของชาวแมนจู
  

ราชวงศ์เหยวียน (元朝) ชนชาติมองโกล 
ปกครองแผ่นดินจีน ค.ศ. 1206 - 1368  รวม 162 ปี

ราชวงศ์หมิง (明朝)ชนชาติฮั่น  ค.ศ. 1368 - 1644 รวม 276 ปี
ราชวงศ์ชิง (清朝) ชนชาติแมนจู  ปกครองแผ่นดินจีน  
ค.ศ. 1644 - 1911  รวม 267 ปี

นับถึงปี 2012  กรุงปักกิ่งได้เป็นเมืองหลวงของจีนมานานถึง 806 ปีแล้ว 




       ตั้งแต่ี่กองทัพม้าเหล็กของชาวมองโกล (蒙古) ซึ่งนำโดยเจ็งกิสข่าน  เข้าตีและยึดเมืองหังโจว (杭州) ซึ่งเป็นราชธานีของราชวงศ์ซ่ง (宋朝) ของชาวฮั่น (汉族) ได้สำเร็จ  ก็ได้สถาปนาราชวงศ์เหยวีย น(元朝 )ซึ่งปกครองโดยชนชาติมองโกลขึ้น  
และย้ายราชธานีจากหังโจวมาที่กรุงปักกิ่ง  ซึ่งมีที่ตั้งใกล้กับถิ่นฐานของมองโกลและมีภูมิอากาศใกล้เคียงกับมองโกลมากกว่า 


พระราชวังปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์กู้กุง  (故宫博物馆)


วันที่ 31 มีนาคม 2011  
เราเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินของปักกิ่ง  และมาขึ้นที่สถานีนี้

            

เมื่อขึ้นมาจกาสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็จะพบกับภาพของ
จัตุรัสเทียนอันเหมิน (天安门广场)
ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของประเทศจีนใหม่  ตั้งแต่ 1 ตุลาคม ปี 1949


คนที่เคยดูหนังจีนเชิงประวัติศาสตร์  น่าจะคุ้นตากับแผ่นหินแกะสลักเป็นลายมังกรขนาดใหญ่นี้  เพราะตรงนี้คือที่ที่บรรดาเหล่าขุนนางเดินเรียงแถวขึ้นไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้
( แผ่นหินขนาดใหญ่นี้  ชาวจีนสมัยก่อนเขาเคลื่อนย้ายเข้ามาในวังได้อย่างไร ? มีคำตอบค่ะ )


( เขาใช้วิธีเคลื่อนย้ายตอนหน้าหนาวที่น้ำกลายเป็นน้ำแข็ง  โดยใช้วิธีราดน้ำตามทางให้กลายเป็นน้ำแข็งก่อน  แล้วจึงใช้คนลากแผ่นหินมหึมานี้ให้ไหลลื่นเคลื่อนที่บนแผ่นน้ำแข็ง )


       เมื่อจูเหยวียนจาง (朱元璋) ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์หมิง
ได้นำกำลังชาวฮั่นขับไล่ชาวมองโกลเป็นผลสำเร็จ  ก็ได้ตั้งราชวงศ์หมิง(明朝)ขึ้น  อำนาการปกครองก็กลับคืนสู่มือของชาวฮั่นอีกครั้ง  
       ราชวงศ์หมิงยังคงตั้งราชธานีอยู่ที่กรุงปักกิ่ง และมีฮ่องเต้ในราชวงศ์ทั้งหมด 13 พระองค์
  

        พระศพของทุกพระองค์ฝังอยู่ที่สุสาน 13 กษัตริย์ (明十三陵) ชานเมืองปักกิ่ง ทางที่จะไปชมกำแพงเมืองจีน สุสาน 13 กษัตริย์ราชวงศ์หมิงนี้ อยู่ใต้ดิน ต้องลงบันไดไปค่อนข้างลึก  
ภายในสุสานอากาศอับชื้น  เมื่อก่อนเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว  ผู้เขียนเคยไปเมื่อ 17 ปีก่อน 
      
            

          แต่ปัจจุบันคนไม่นิยมไปเที่ยว  ศาสตรจารย์หยางเจี้ยนกว๋อ (北京语言大学杨建国教授) อาจารย์ท่านหนึ่งของผู้เขียนที่มหาวิทยาลัยภาษาปักกิ่ง  แนะนำพวกเราว่าอย่าไปเที่ยวที่นั่น  เพราะที่นั่น “阴气很重” ( มีไอหรือ "ชี่" ของโลกหยินหนักมาก  โลกหยินหมายถึงโลกของคนที่เสียชีวิตไปแล้ว)  
การไปเที่ยวสถานที่แบบนี้จะไม่เป็นมงคลแก่ตนเอง

    

        ปลายราชวงศ์หมิง  ชนเผ่าแมนจู (满族) ที่อยู่ทางตอนเหนือของจีนมีกำลังเข้มแข็ง  แต่ก็ยังตีเข้ามาในกรุงปักกิ่งไม่ได้  จนกระทั่ง หวูซันกุ้ย (吴三桂) แม่ทัพคนสำคัญของจีนตัดสินใจเปิดด่านให้กำลังแมนจูเข้ามา  กองกำลังแมนจูจึงได้ยึดกรุงปักกิ่งและพระราชวังแห่งนี้ไว้ได้ทั้งหมด  และสถาปนาราชวงศ์ชิง (清朝) ซึ่งปกครองโดยชาวแมนจูขึ้น
  
         

          เรื่องหวู่ซันกุ้ยทำไมถึงเปิดด่านให้แมนจูเข้ามา  เป็นช่วงประวัติศาสตร์จีนและเป็นจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจมาก  ถ้าเล่าก็จะยาวไป  ต้องละไว้ก่อน


( เต่า สัตว์มงคล สัญญลักษณ์อายุยืน )


หลังจากแมนจูเข้าปกครองประเทศจีน  ก็เกิดการต่อสู้กู้ชาติของชาวฮั่นอย่างต่อเนื่องยาวนานถึงเกือบ 300 ปี   
ชาวฮั่นต้องเสียชีวิตกับการต่อสู้กับอำนาจรัฐของแมนจูเพื่อกู้ชาติจีนจำนวนมาก      
 มีวีรบุรุษและวีรสตรีสละชีวิตไปมากมาย
  

         ปลายราชวงศ์ชิง อำนาจการบริหารที่แท้จริงอยู่ในมือของพระนางซูสีไทเฮา  ราชสำนักอ่อนแอ  จักรวรรดินิยมตะวันตกแปดชาติร่วมกันยกกำลังเข้ารุกรานจีน  เข้ายึดพระราชวังกู้กุงไว้  และแบ่งกันครอบครองแผ่นดินจีนที่เป็นจุดสำคัญๆ และเส้นชีวิตไว้  เช่น ฝรั่งเศสเข้ายึดครองเซี่ยงไฮ้ที่เป็นทั้งท่าเรือและเมืองเศรษฐกิจสำคัญของจีน  อังกฤษยึดครองเกาะฮ่องกง  โปรตุเกสครอบครองเกาะมาเก๊า  เยอรมันนียึดครองเมืองชิงเต่า ( เป็นที่มาของเบียร์ชิงเต่า ) ฯลฯ 
         การกู้ชาติของชาวจีนทั้งในแผ่นดินจีนและโพ้นทะเลซึ่งนำโดย ดร.ซุนยัตเซ็น (孙中山先生) ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในจีนขึ้น  การเกิดปฏิวัติซินไห้ (辛亥革命) ในปี 1911 
กองกำลังของชาวฮั่นสามารถยึดอำนาจการปกครองได้  และเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบสาธารณรัฐ  ซึ่งถือเป็นปีที่สิ้นสุดการปกครองของราชวงศ์ชิงและระบอบฮ่องเต้ในประเทศจีน 


         ตอนที่พระราชวังกู้กุงถูกทหารต่างชาติบุกยึด  สมบัติมีค่ารวมถึงวัตถุโบราณและสิ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่ดีที่สุดของจีนที่เก็บสะสมไว้ในพระราชวังแห่งนี้มาหลายร้อยปี  ถูกชาติตะวันตกที่เข้ายึดวังแบ่งกันขนเอาไปจำนวนมาก
      

( ท่อระบายน้ำรูปหัวมังกร )


        และช่วงที่เกิดสงครามภายในประเทศจีน  ฝ่ายก๊กหมินตั๋งที่นำโดยนายพลเจียงไคเช็ค  ก็ได้ขนเอาทรัพย์สินและวัตถุโบราณอีกจำนวนมากไปอยู่ที่เกาะไต้หวัน  และไปตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ "กู้กุง" อีกแห่งที่ไทเป  โบราณวัตถุที่นั่นมีจำนวนมากถึงขั้นที่ต้องผลัดกันนำออกมาจัดแสดง  

 



อาจจะพูดได้ว่า  สิ่งที่ต่างชาติและนายพลเจียงไคเช็คเอาไปไม่ได้  ก็คือ  สิ่งก่อสร้างของตัวพระราชวังนี่เอง


( เด็กจีนที่หนาวจนแก้มแดง  ความจริงเจ็บแสบผิวมาก )




โอ่งขนาดใหญ่แบบนี้จะมีอยู่ทุกจุดในพระราชวังกู้กุง
 ใช้เป็นที่รองน้ำฝนไว้ใช้  


สังเกตดูที่ฐานโอ่งนะคะ  
จะเป็นที่สำหรับใส่ฟืนลงไปจุดไฟ  เพื่ออะไร ?

        เพราะว่าในพระราชวังเคยเกิดเพลิงไหม้หลายครั้ง  ในหน้าหนาว ปักกิ่งอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง   น้ำในที่ต่างๆ กลายเป็นน้ำแข็ง  เวลาเกิดเพลิงไหม้ไม่สามารถตักน้ำไปดับไฟได้  จึงต้องมีที่สำหรับใส่ฟืนก่อไฟทำให้น้ำแข็งละลาย    




ภาษาทางการในสมัยราชวงศ์ชิง จะเป็นสองภาษา  คือ ภาษาฮั่นคู่กับภาษาแมนจู อย่างที่เห็นในป้าย ( อักษรที่เป็นตัวจีนด้านซ้าย คือ อักษรชาวฮั่น  อักษรด้านขวาคือ อักษรภาษาแมนจู )


ในกระดาษแผ่นนี้เขาเขียนระบุวันที่ ว่า เป็นปีที่ 37 
ในรัชกาลเฉียนหลงฮ่องเต้  
แต่ประเด็นที่เราอยากรู้มากกว่าคือนี่เป็นลายมือคนเขียนขึ้นหรือ  ดูบรรจงและตัวเท่ากันมาก




( ห้องน้ำ ปัจจัยสำคัญ ห้องน้ำที่ในวังนี้ออกแบบกลมกลืน )


( เดินมาหลายชั่วโมงแล้ว เมื่อยมาก  นั่งพักนี่เลย ไม่มีใครรู้จักเรา ไม่เป็นไร )












 北京故宫 (出口)




ตรงนี้เป็นด้านที่เราออกจากพระราชวังกู้กุง  มีรถเมลล์สาย 111 ผ่าน  

แต่จุดนี้เรียกรถแท๊กซี่ยากมาก


ก็จะมีรถกระป๋องลักษณะแบบนี้  กับรถป้ายดำ  หมายถึงรถรับจ้างที่ไม่ได้รับอนุญาตมาเรียกลูกค้าจำนวนมาก  
แต่รถแบบนี้ไม่แนะนำให้ขึ้น  เพราะอาจโดนหลอกลวง  
เมื่อตกลงราคากันแล้วพอไปถึงปลายทางจะถูกเรียกค่ารถแพงมาก  ถ้าไม่จ่ายก็จะมีการเรียกพรรคพวกมาข่มขู่ 



ดูภาพและข้อมูลอัพเดทเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2012 
แนะนำแหล่งเที่ยวแหล่งกินในปักกิ่งเพิ่มเติมที่

(เรื่องและภาพทั้งหมดเขียนขึ้นโดยสุวรรณา สนเที่ยง ห้ามผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์โดยการคัดลอกทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งไปอ้างเป็นการเขียนของตนเอง  ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมายลิขสิทธิ์)

.........................................


Entry ที่เกี่ยวข้อง

北京 BEIJING (6) สถานที่ไม่ควรพลาดในปักกิ่ง 鸟巢 สนามกีฬารังนก สถาปัตยกรรมยุคใหม่



北京 BEIJING สถานที่ไม่ควรพลาดในปักกิ่ง (5) 天坛 - 世界文化遗产 เทียนฐาน TIANTAN



北京 BEIJING ปักกิ่ง (4)



北京 BEIJING สถานที่น่าสนใจในปักกิ่ง (3) BEIJING CAPITAL MUSEUM พิพิธภัณฑ์นครหลวงปักกิ่ง

http://suwannafc.blogspot.com/2013/10/3-beijing-capital-museum.html  (คลิกที่นี่)



北京 BEIJING สถานที่ไม่ควรพลาดในปักกิ่ง(2)前门 - 大栅栏 เฉียนเหมิน - ต้าซันหลัน QIANMEN - DA SHAN LAN

http://suwannafc.blogspot.com/2013/10/beijing2-qianmen-da-shan-lan.html (คลิกที่นี่)


北京 BEIJING สถานที่ไม่ควรพลาดในปักกิ่ง(1)  前门 QIANMEN เฉียนเหมิน

http://suwannafc.blogspot.com/2013/09/beijing-1-qianmen.html  (คลิกที่นี่)




08 - 02 - 2013 ได้รวมลิงก์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในหัวข้อ "เจาะลึกปักกิ่ง" ไว้ในเอนทรี่ข้างล่างนี้แล้ว



Facebook : Suwanna Future C
https://www.facebook.com/SuwannaFutureC?ref=hl









Flag Counter

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น