วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2559

เจาะลึกปักกิ่ง ตอนที่ 13 วัดลามะในปักกิ่งปัจจุบันกับการแย่งชิงบัลลังก์และอำนาจในอดีต 北京雍和宫


เรื่องนี้โพสต์ครั้งแรกที่โอเคเนชั่นบล็อก วันที่  3 มิถุนายน 2012 (2555)
http://www.oknation.net/blog/chineseclub/2012/06/03/entry-1
..............
วัดลามะกรุงปักกิ่ง  เป็นศาสนสถานที่สำคัญและมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจมาก
เที่ยวปักกิ่งแบบไปเอง สถานที่สำคัญที่ไม่ควรพลาดและแนะนำร้านอาหาร ต่อจากเอนทรี่ก่อนหน้านี้นะคะ  
เป็นความบังเอิญนะคะที่โพสเรื่องวัดลามะตรงกับวันวิสาขบูชา ฉลองพุทธชยันตี (ครบรอบพระพุทธเจ้าตรัสรู้) 2600 ปี พอดี
วัดลามะในกรุงปักกิ่ง  ภาษาจีนเรียกว่า 雍和宫 ( ยงเหอกง Yonghe Gong ) ภาษาอังกฤษเรียกว่า Lama Temple  สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1694 เป็นพระตำหนักเดิมของยงเจิ้งฮ่องเต้ ในสมัยราชวงศ์ชิง
การเดินทาง   
วัดลามะ ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง 
雍和宫 (The Lama Temple) 位于北京市区东北  
สามารถนั่งรถไฟใต้ดินสาย 5 สายสีม่วง หรือสาย 2 สายสีน้ำเงิน (ที่วิ่งเป็นวง) ลงที่สถานี Yonghegong (ยงเหอกง) ซึ่งเป็นจุดตัดและจุดต่อรถสาย 5 กับสาย ลงสถานี ยงเหอกง  ถ้าเรียกแท๊กซี่ก็บอกว่า "ยงเหอกุง"

คำว่า 宫 ที่แปลว่า วัง  สำเนียงจีนกลางมาตรฐาน (标准普通话)ออกเสียงว่า กุง  สำเนียงจีนไต้หวันออกเสียงว่า กง  
IMG_0735

雍和宫   หมายถึง สมานฉันท์ ปรองดอง   หมายถึงสันติ สามัคคี   แปลว่าพระตำหนักหรือพระราชวัง
IMG_0727
 วัดลามะ เป็นวัด  แต่ชื่อเรียกเป็นวัง  ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ประวัติความเป็นมาของวัดนี้น่าสนใจมากที่เดียว
ก็เพราะว่าสถานที่แห่งนี้เคยเป็นพระตำหนักของยงเจิ้งฮ่องเต้ (清朝雍正皇帝)หรือที่คนไทยเรียกกันว่า “จักรพรรดิหย่งเจิ้ง) แห่งราชวงศ์ชิงในสมัยที่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์
และเป็นสถานที่ประสูติของเฉียนหลงฮ่องเต้ (清朝乾隆皇帝)เมื่อประมาณ 300 กว่าปีก่อน  
ก่อนที่ยงเจิ้งฮ่องเต้(雍正皇帝)จะเสด็จสวรรคต  ได้ยกที่ดินครึ่งหนึ่งของตำหนักนี้ให้แก่พระลามะธิเบตนิกายหมวกเหลืองรูปหนึ่ง  และใช้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ดูแลกิจการต่างๆ  ของวัดลามะธิเบตทั่วประเทศ หลังจากยงเจิ้งฮ่องเต้สวรรคต  เฉียนหลงฮ่องเต้ซึ่งเป็นพระโอรสขึ้นครองราชย์และได้ยกที่ของพระตำหนักทั้งหมดให้แก่วัด  ปัจจุบันจึงเป็นวัดที่ยังคงใช้ชื่อพระตำหนักเดิมอยู่ 
IMG_0704
IMG_0753
ภาพบน จ้วนจิ๊งถ่ง 转经筒 Zhuǎn jīng tǒng 
จ้วนแปลว่าหมุนรอบ  จิ๊ง แปลว่า คัมภีร์ มนต์ ถ่ง แปลว่ากระบอก
ชาวธิเบตนำคัมภีร์ของนิกายลามะไว้ในสิ่งที่เป็นรูปทรงกระบอกนี้  ทุกครั้งที่หมุน 1 รอบก็เปรียบเสมือนได้สวดมนต์ 1 จบ  เวลาหมุนก็ตั้งจิตอธิฐานไปด้วย   
藏族人民把经文放在转经筒里,每转动一次就相当于念颂经文一次。

ภาพล่าง ป้ายที่เขียนว่า 雍和宫 (ยงเหอกง) นี้  แปลกตาน่าสนใจ  เขียนด้วยอักษร 4 ภาษา คือ อักษรแมนจู อักษรฮั่น (อักษรจีน) อักษร
มองโกล และอักษรธิเบต
IMG_0732
IMG_0733
เป็นสัญญลักษณ์ของชนชาติใหญ่ในจีน 4 ชนชาติ คือ ชาวฮั่น  ชาวแมนจู  ชาวมองโกลและธิเบต ( จีนมีอีก 1 ชนชาติใหญ่อยู่ที่ซินเกียงนะคะ) เนื่องจากแผ่นดินของชาวฮั่นแห่งนี้เคยถูกกองทัพม้าเหล็กของเจงกิสข่านเข้ายึดและสถาปนาราชวงศ์หยวน(ราชวงศ์เยวียน 元朝)ที่ปกครองโดยชาวมองโกลขึ้น  โดยย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่ปักกิ่งซึ่งใกล้กับมองโกล  ต่อมาชาวฮั่นที่นำโดยจูเยวียนจาง (朱元璋)ได้ยึดอำนาจการปกครองคืนจากชาวมองโกลและตั้งราชวงศ์หมิง(明朝)ขึ้น  แต่เมื่อประมาณ 400 ปีก่อน ปักกิ่งก็ถูกชนชาติแมนจูบุกยึดได้อีก ตั้งราชวงศ์ชิง(清朝)ซึ่งปกครองโดยชาวแมนจูขึ้น
หลังจากที่แมนจูเข้าปกครองจีน ก็ใช้ภาษาแมนจูเป็นภาษาทางการอีกภาษาหนึ่งควบคู่ไปกับภาษาจีนกลาง  โดยให้ข้าราชการขุนนางทั้งหลายกราบบังคับทูลข้าราชการเป็นภาษาแมนจู  ภาษาทางการจึงมี 2 ภาษาคือภาษาแมนจูกับภาษาฮั่น (ภาษาจีน) 
จากการค้นข้อมูล ไม่พบว่ามัยนั้นมีการใช้ภาษามองโกลและธิเบตเป็นภาษาทางการด้วย    
ทันทีที่ก้าวเท้าผ่านประตูเข้าไปในบริเวณวัดลามะ  ก็สัมผัสความรู้สึกที่สงบได้ทันที  ชอบที่นี่มาก  ผู้คนไม่พลุกพล่านและไม่ส่งเสียงดังเหมือนที่พระราชวังกู้กง  เพราะไม่กล้าทำลายความสงบที่ดูขลังของที่นี่

ภายในวัดลามะ กรุงปักกิ่ง  มีต้นไม้ที่มีอายุหลายร้อยปีอยู่หลายต้น  โดยเฉพาะต้นฮว๋าย (槐树)ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำเมืองปักกิ่ง 
ถ้ามาเที่ยวปักกิ่งหน้าหนาว ต้นที่เห็นมีใบเขียวๆ ร่มรื่นนี้ จะเป็นต้นโกร๋นไม่มีใบเลย
คนจีนมีคำพูดว่า “名园易得,古树难求”。แปลเป็นไทยก็หมายความว่า อุทยานสวนไม้ดอกที่มีชื่อเสียงสร้างได้ไม่ยาก  แต่ต้นไม้ใหญ่ที่อายุยืนนั้นหาได้ยากยิ่ง

ต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปีคู่กับสถาปัตยกรรมเก่าแก่ จึงเป็นเอกลักษณ์พิเศษของวัดลามะ (喇嘛庙)กรุงปักกิ่งแห่งนี้ 
 IMG_0748
古树和古建并存,是雍和宫的特色。 
 IMG_0716
 ร่มรื่นเย็นสบายตา 
เดินเข้ามาได้ประมาณ 100 เมตรก็จะถึงจุดนี้ 
IMG_0703

ตัวอักษรบนแผ่นป้ายในวัดลามะนี้ เขียนด้วยอักษรจีนแบบโบราณว่า  雍和禅房 เป็นอักษรจีนที่เรียกว่า จ้วนซู เป็นอักษรจีนที่ใช้ในช่วงก่อน - หลังราชวงศ์ฉิน ( ก่อน ค.ศ. 211)  หรือ 2000 กว่าปีก่อน  
 IMG_0707

雍和宫中的古钟 
IMG_0745
 ภาพหอระฆังโบราณในยงเหอกง วัดลามะปักกิ่ง  ชอบอักษรจีนที่อยู่บนระฆังค่ะ 
ยงเหอกง วัดลามะ ปักกิ่ง เป็นวัดสำคัญที่ชาวพุทธมหายานแบบธิเบตตั้งใจว่าว่าต้องมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์สักครั้งในชีวิต  ที่เห็นมาไหว้ก็มีคนหนุ่มสาวจำนวนมาก และนิยมใช้ธูปก้านใหญ่ๆ จุดเป็นกำๆ เลย  
IMG_0742 
IMG_0741
เขาพระสุเมรุ ( ภาษาจีนเรียกว่า  须弥  Xū míshān )  ที่คนนิยมโยนเหรียญขึ้นไป  เพราะเชื่อว่าจะโชคดี

  IMG_0730
IMG_0738
 ทางวัดมีการเขียนป้ายห้ามโยนเหรียญขึ้นไปบนเขาพระสุเมรุ 
IMG_0737

ทำรั้วกั้นเอาไว้ 
IMG_0728 
กระถางธูปนี้เป็นสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่งของยงเหอกง วัดลามะปักกิ่ง  สร้างขึ้นอย่างวิจิตรปราณีตในปี 1747  สมัยของเฉียนหลงฮ่องเต้  

IMG_0718
 ค่าผ่านประตู 30 หยวน ช่วงเทศกาล แถมแผ่นซีดีเล็กแนะนำวัดลามะ 
IMG_0720
เอนทรี่นี้ วัดลามะในปักกิ่งปัจจุบันกับการแย่งชิงบัลลังก์และอำนาจในอดีต 北京雍和宫

เอนทรี่หน้า  ภาพเพิ่มเติมและเรื่องราว

วัดลามะ กรุงปักกิ่ง การแย่งชิงอำนาจการเมืองในอดีต

ศึกสายเลือด  องค์ชายสี่กับการขึ้นครองราชย์ของฮ่องเต้ยงเจิ้ง  

เอนทรี่ก่อนหน้า 

ข้อมูลสำหรับ
คนที่สนใจไปเที่ยวส่วนตัว  ไปติดต่อการค้า ไปประชุมสัมนา 
หน่วยงานของรัฐและบริษัทเอกชนต่างๆ  ที่จะพาบุคคลากรและลูกค้าไปดูงาน  
สถานศึกษาต่างๆ ที่มีโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา 
นักศึกษาไทยที่ไปศึกษาอยู่ในเมืองต่างๆ ของจีน 
ผู้ปกครองที่เตรียมไปเยี่ยมลูกๆ   
ผู้สนใจทั่วไป
และบันทึกความทรงจำ
สนใจเรื่องจีนๆ  เพิ่มเติม ที่ Suwanna Future C

 รวมเรื่องเกี่ยวกับปักกิ่ิง 深入北京
เขียนโดย สุวรรณา สนเที่ยง 张碧云
Flag Counter
  
                            

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น